สนธิญาณ เผยภาพอดีต 35 ปี ลุยเสี่ยงสนามรบเขมรแดง รู้เห็นความจริงใครเสียสละ
ตามติดการชุมนุมของ "กลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH" ในการเรียกร้อง 3 ข้อต่อรัฐบาล ท่ามกลางภาพแทรกซ้อนแสดงให้เห็นว่าม็อบที่จัดตั้งขึ้นนี้มีอีกหนึ่งอุดมการณ์ความผิดแฝงเร้น ต่อการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์สอดแทรกอยู่ด้วย
ไม่นับรวมการปลุกปั่นให้เกิดความรู้สึกร่วมของความรุนแรง เพื่อเร่งเร้าให้ผู้คนออกมาร่วมการชุมนุม และแฮชแท็กร้อน ๆ "ม็อบมุ้งมิ้ง" ทำให้นายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์สิทธิมนุษยชน และแกนนํากลุ่มพลเมืองโต้กลับ รวมถึง เพนกวิน หรือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ทนไม่ได้ จัดการชุมนุมหน้ากองทัพบก ทำการหยามเหยียด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ด้วยการฉีกรูปภาพในเชิงยั่วยุตามรูปแบบ ที่ต้องการให้เกิดการโต้ตอบกลับเพื่อนำไปอ้างขยายขอบเขตการชุมนุม
ก่อนหน้านี้ "วิมล ไทรนิ่มนวล" นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นต่อปรากฎการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นว่า "ด่าคนอื่น..ไอ้เ-ีย ไอ้สัส ให้กล้วย..สารพัดถ้อยคำต่ำช้าไม่เป็นไร พอเขาบอกเป็น "ม็อบมุ้งมิ้ง" ดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนสาด #ม็อบดัดจริต แต่หากตามสังเกต สถานการณ์ที่เคลื่อนไหวของขบวนการที่เริ่มก่อม็อบได้อย่าง "น่าผวาดผวา" กลับต้อง "ตกม้าตาย" เพียงเพราะ ไม่ตกผลึกในการเคลื่อนไหว และ ถูกอ่านเกมออก ตั้งแต่แรก เพราะการที่ม็อบออกตัวจั่วหัวที่ดูรุนแรง เช่น การล้มล้างการปกครอง รวมไปถึงการแสดงความก้าวร้าวต่อ พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย แต่กลับเสนอ ข้อเรียกร้องแค่เปลี่ยนรัฐธรรมนูญ ยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่ นั้น เป็นข้อเสนอ ที่ดูเบาบางมาก
มันทำให้เห็นชัดเจนถึงการเจตนายั่วยุให้เกิดการปะทะ ระหว่าง มวลชนหัวฝ่ายซ้าย และ ประชาชนที่รับไม่ได้ในการเคลื่อนไหวคุกคามพระเจ้าแผ่นดิน กลายเป็น ความรุนแรงโดยมี ผู้ชุมนุมที่ไร้เดียงสา เป็นเหยื่อในความรุนแรงนั้นแหล่ะครับ ความรุนแรง ท่ามกลางการต่อสู้ ของสองฝ่าย มันเป็นส่วนหนึ่งของการกดดันให้ รัฐบาล ตัดสินใจยุบสภาเพื่อ ลดความเสี่ยงในการสูญเสียนั้นเอง การเลือกตั้งใหม่ อันเอื้อประโยชน์ ต่อนักการเมืองที่ต้องการเอาชนะฝ่ายรัฐบาลเท่านั้นเอง
อ่านข่าว - วิมล นักเขียนซีไรท์ อดไม่ไหวตั้งชื่อให้ม็อบด่าหยาบ อานนท์ เพนกวิน รับไม่ได้โดนเรียกมุ้งมิ้ง
ล่าสุด นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานสถาบันทิศทางไทยได้โพสต์ลงในแฟนเพจส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ความว่า "นี่เป็นรูปเมื่อ ๓๕ ปีก่อน ผมกับพี่สำราญเข้าไปทำข่าวในพื้นที่เขมรแดง ในจำนวนทหารเขมรแดงที่เจอมีอยู่หลายคนที่พูดไทยได้ ซึ่งความจริงคือเป็นทหารไทยที่เสียสละ
ลบชื่อตัวเองออกจากสารระบบกองทัพไทย หลายคนเสียชีวิตเป็นวีรบุรุษนิรนาม พวกเขาเสี่ยงชีวิตเพื่อหาข่าวปกป้องชาติ เพราะกองกำลังเวียดนามที่เข้าประชิดชายแดนไทยไม่ได้เพราะกองกำลังเขมร ๓ ฝ่ายยันไว้ ตอบคำถามได้ไหมว่า..มีทหารไว้ทำอะไร??"
กองบรรณาธิการข่าว